อยู่ “กรุงเทพฯ” เงินเดือนเท่าไรถึงจะพอใช้ ?

  • 24 Jan 2025
  • 5840
หางาน,สมัครงาน,งาน,อยู่ “กรุงเทพฯ” เงินเดือนเท่าไรถึงจะพอใช้ ?

 

“แค่ก้าวขาออกจากบ้านก็เสียเงินแล้ว” นี่คงไม่ใช่คำพูดเกินจริง สำหรับมนุษย์กรุงเทพฯ ลองคำนวณเล่นๆ ดูว่าในชีวิตประจำวันของคุณ วันๆ หนึ่งคุณใช้เงินไปเท่าไร

  • ค่าวินมอเตอร์ไซค์ 10 บาท
  • ค่ารถตู้ 35 บาท
  • ค่ารถไฟฟ้า 44 บาท
  • ค่าข้าว 50 บาท
  • ค่ากาแฟ 30 บาท
  • ..............

 

นี่ยังไม่ถึงครึ่งวันก็ควักกระเป๋าไปเกือบ 200 บาทแล้ว แบบนี้ทั้งวันไม่ต่ำกว่า 300 บาทแน่นอน แล้วอย่างนี้จะต้องมีเงินเดือนเท่าไร ถึงจะพอใช้กับค่าครองชีพที่สูงลิบลิ่วในมหานครแห่งนี้

จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ค่าใช้จ่ายของคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน อยู่ที่ 32,000 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับจังหวัดในภูมิภาคอื่นๆ ดังนั้นก่อนที่จะสรุปว่าควรมีเงินเดือนเท่าไร เรามาหาวิธีวางแผนการเงินให้พอใช้ จะได้ไม่สิ้นใจก่อนสิ้นเดือนกันก่อนดีกว่า

 

“วางแผนการเงิน” ทางออกของมนุษย์เงินเดือน

วินัยทางการเงินคือหัวใจสำคัญของมนุษย์เงินเดือนทุกคน ควรมีการจัดสรรปันส่วนให้ดีตั้งแต่วันแรกที่ได้รับเงินเดือน ซึ่งเราขอแนะนำให้แบ่งเงินเดือนออกเป็น 4 ส่วนดังนี้

1. ค่าใช้จ่ายจำเป็น 70% ในก้อนนี้จะประกอบไปด้วยค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และหนี้สินต่างๆ

2. เงินออม 20% ควรแบ่งเงินออมออกเป็นสองบัญชีคือ เงินออมที่เก็บไว้ใช้ยามเกษียณ ซึ่งเงินส่วนนี้อาจนำไปลงทุนกับกองทุนต่างๆ เพื่อให้งอกเงย และเงินออมสำหรับใช้ตอนฉุกเฉิน

3. ค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง 10% เงินก้อนนี้สำหรับเก็บไว้เป็นค่าเดินทางท่องเที่ยว ค่าสังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือค่าเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า สำหรับสาวๆ

 

ตัวอย่างการวางแผนการเงินสำหรับคนเงินเดือน 15,000 บาท

            ค่าใช้จ่ายจำเป็น 70% = 10,500 บาท

            เงินออม 20% = 3,000 บาท

            ค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิง 10% = 1,500 บาท

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าถึงแม้มีเงินเดือนแค่ 15,000 บาท แต่ถ้ามีการวางแผนการเงินที่ดี ก็สามารถอยู่รอดในกรุงเทพฯ ได้เช่นกัน แต่หลายครั้งที่เงินเดือนไม่พอใช้ นั่นเป็นเพราะว่าเราไม่รู้ว่าในแต่ละวันเราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง ซึ่งปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย

 

“บัญชีรายรับ-รายจ่าย” อุดรอยรั่วทางการเงิน

เมื่อรู้ว่าในแต่ละเดือนเราสามารถใช้เงินได้เท่าไร ควรหารเฉลี่ยเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละวันไว้ เช่น สามารถใช้เงินได้วันละ 300 ก็ใส่เงินสดในกระเป๋าแค่ 300 บาทเท่านั้น แล้วจดค่าใช้จ่ายทุกอย่างลงในสมุดบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้เรารู้ว่าในแต่ละวันเสียเงินกับค่าอะไรมากที่สุด

เมื่อหาต้นตอที่ทำให้เงินไม่พอใช้ได้แล้ว ก็ค่อยหาทางอุดรอยรั่วด้วยการสร้างไลฟ์สไตล์ให้เหมาะกับฐานเงินเดือน เช่น รีบเคลียร์หนี้บัตรเครดิตให้หมด เพราะดอกเบี้ยแพงมาก ทำอาหารกลางวันไปกินที่ทำงานแทนการเข้าร้านหรู ดื่มกาแฟสำเร็จรูปแทนการซื้อกาแฟสดแพงๆ หรือเดินทางด้วยรถเมล์แทนรถไฟฟ้า เป็นต้น

 

“หารายได้เสริม” อีกหนึ่งทางรอดของมนุษย์กรุงเทพฯ

 สุดท้าย เมื่อค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น หรือมีภาระจำเป็นต่างๆ ที่ต้องจ่ายทุกเดือน จนทำให้เงินเดือนไม่พอใช้ การหารายได้เสริมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น การขายของตามตลาดนัดในช่วงหลังเลิกงานหรือวันหยุด และการขายของทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นช่องทางที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ เพราะลงทุนน้อยและสามารถทำที่ไหนก็ได้

 

ดังนั้นกลับไปที่คำถามเริ่มต้นว่า

อยู่ “กรุงเทพฯ” เงินเดือนเท่าไรถึงจะพอใช้ ?

ลองตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า…

 ทุกวันนี้เราบริหารการเงินได้ดีแค่ไหนและมีวินัยมากพอหรือยัง ?

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top